321 ถ.นารายณ์มหาราช ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี 15000,

  • ไทยเบิ้ง

  •      ไทยเบิ้งหรือไทเดิ้ง หรือไทยโคราช เป็นกลุ่มชนพื้นถิ่นอีกกลุ่มนึงที่ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณลุ่มน้ำป่าสัก อ.พัฒนานิคม อ.ชัยบาดาล อ.โคกสำโรง และอำเภอสระโบสถ์ จ.ลพบุรี และยังตั้งถิ่นฐานกระจายอยู่ในจังหวัดอื่นๆ อีกเช่น อำเภอวังม่วง จ.สระบุรี อำเภอศรีเทพ อำเภอวิเชียรบุรี จ.เพชรบรูณ์ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ จ.ชัยภูมิ "ไทยเบิ้ง" คือกลุ่มชนที่ใช้ภาษาไทยกลาง เพียงแต่สำเนียงเพี้ยนเหน่อเท่านั้น มีภาษาไทยลาวปนอยู่บ้าง
    การตั้งบ้านเรือน ชาวไทยเบิ้งนิยมปลูกเรือนใต้ถุนสูง เช่นเดียวกับบ้านในชนบทมีใต้ถุนบ้านสูงญาติพี่น้องปลูกบ้านในบริเวณใกล้เคียงกัน ลักษณะครอบครัวจะเป็นครอบครัวขยาย สมัยก่อนมีอาชีพทำนาทำไร่เป็นหลัก ปัจจุบันมีความเป็นอยู่แบบเรียบง่าย พูดเสียงเหน่อ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจ ใจบุญสุนทาน รักสนุก ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน *การแต่งกาย ชาวไทยเบิ้งเป็นคนเรียบง่าย จึงมีการแต่งกายแบบธรรมดา มีเสื้อผ้าเท่าที่จำเป็นนิยมใช้ผ้าฝ้ายมากกว่าผ้าทอ จากเส้นใยอื่นๆ ถ้าเป็นโอกาสพิเศษจะใช้ผ้าฝ้ายที่ทอปนกับผ้าไหม การแต่งกายของชนกลุ่มนี้มีลักษณะดังนี้

         - ผู้หญิง นุ่งผ้าโจงกระเบนเป็นผ้าพื้นทอมือสีเข้ม คาดเข็มขัดเงิน เข็มขัดทอง หรือเข็มขัดนาก สวมเสื้อตัดเย็บจากผ้าฝ้ายทอมือ เสื้อที่นิยมใช้เรียกว่าเสื้อ "คอกระโจม" และเสื้อ "อีแปะ" หญิงชาวไทยเบิ้งจะใส่เสื้อดังกล่าวได้ทุกโอกาส ส่วนเครื่องประดับนั้นนิยมใช้ทองมากกว่าเพชรพลอย นิยมใส่ตุ้มหูมากกว่าสร้อยและแหวน
    ปัจจุบันหญิงชาวไทยเบิ้งที่สูงอายุจะนุ่งโยงกระเบน ส่วนวัยกลางคนนิยมนุ่งผ้าถุง ซึ่งเป็นผ้าฝ้ายพิมพ์ลายหรือผ้าฝ้ายพื้นสีเข้ม สวมเสื้อคอกระเช้า สะพายย่ามทอมืออันเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มชน

         - ผู้ชาย นุ่งกางเกงขาก๊วย กางเกงขาสั้น กางเกงขายาว หากอยู่บ้านจะนุ่งผ้าถุงไม่สวมเสื้อ เมื่อออกนอกบ้านจะใส่เสื้อคอกลม ปกฮาวาย หรือปกเชิ้ต มีผีขาวม้าพาดบ่าเหมือนสไบ ตัดผมทรงดอกกระทุ่มสะพายย่าม ไม่สวมรองเท้า ปัจจุบันชาวไทยเบิ้งแถบลุ่มน้ำป่าสัก จ.ลพบุรี แต่งกายแบบเดียวกับคนไทยในท้องถิ่นอื่นๆแล้ว
  • ประเพณีพื้นบ้านของชาวไทยเบิ้งในเขตลุ่มแม่น้ำป่าสัก จัดตามเทศกาลหรือโอกาสต่างๆ โดยทั่วไปมีประเพณีคล้ายกับชาวไทยภาคกลาง คือ
         - ประเพณีเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ได้แก่ เทศน์มหาชาติ การทำบุญวันมาฆบูชา วิสาขบูชา เข้าพรรษา ออกพรรษา ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า เป็นต้น
         - ประเพณีตรุษ สารท เป็นประเพณีทำบุญในโอกาสสิ้นปีและอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษ เป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ
         - ประเพณีเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ ซึ่งอาชีพหลักของชาวไทยเบิ้ง คือ ทำนา เมื่อถึงฤดูการทำนา จะมีประเพณีต่างๆ จัดทำเพื่อบูชาผี หรือเทวดาเพื่อบันดาลให้ฝนตกตามฤดูกาลหรือให้เกิดผลผลิตที่ดี ได้แก่ ประเพณีแห่นางแมวขอฝน ประเพณีรับท้องข้าว ประเพณีรับขวัญข้าวหรือเรียกขวัญข้าว  
         - ประเพณีที่เกี่ยวกับความเชื่อ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เช่น ประเพณีทำบุญกลางบ้าน จัดทำพิธีบูชาผีเพื่อให้เกิดสิริมงคล ให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข ไม่มีโรคภัย และให้ไร่นามีผลผลิตอุดมสมบูรณ์

         อาชีพ การประกอบอาชีพส่วนใหญ่ยังคงทำนาเป็นอาชีพหลัก ทำไร่ ทำประมง และหาของป่า ส่วนการทำประมงจะจับปลามาเป็นอาหาร อาหารจากปลานิยมเอามาปรุงอาหารสดรับประทาน เช่น แกง ปิ้ง ย่าง การเก็บถนอมอาหาร ทำเป็นปลาร้า น้ำปลา และปลาเค็ม ส่วนของป่าจะหามาแลกกับอาหารหรือแลกของใช้ 
  • สำหรับอาชีพเอกลักษณ์ดั้งเดิมชาวไทยเบิ้ง คือ "อาชีพทำไต้ และทำลาน" แต่ได้เลิกไปตั้งแต่ราว พ.ศ. 2500 เนื่องจากการบุกพื้นที่ป่ารอบๆ หมู่บ้านทำให้ต้นยางและต้นลานถูกตัดทิ้ง

  • ด้านวัฒธรรม ได้แก่
         - ภาษาและวรรณกรรมของชาวไทยเบิ้ง ที่ตำบลชัยบาดาล, ตำบลมะนาวหวาน, ตำบลโคกสลุง และตำบลหนองบัว ภาษาไทยเบิ้งคือภาษาไทยโคราชและคล้ายภาษาไทยภาคกลางแต่เสียงวรรณยุกต์ต่างกัน และนิยมลงท้ายประโยคด้วยคำว่า เบิ้ง เดิ้ง ด๊อก เหว่ย
    ส่วนวรรณกรรมของชาวไทยเบิ้งนิยมเขียนบนสมุดไทยใบลาน ใช้อักษรไทย อักษรขอม สำหรับวรรณกรรมที่ค้นพบได้แก่ นิทาน นิยาย คำสอน และคติธรรม ตำรายา ตำราหมอดูและกฏหมาย เป็นต้น
         - ศิลปกรรม ของชาวไทยเบิ้งหรือทำโดยกลุ่มไทยลาว ได้แก่ ประติมากรรมสลักไม้รูปช้าง ม้า ใช้บนศาลในหมู่บ้าน หรือพระพุทธรูปไม้สลัก ภาพวาดบนสมุดข่อย และภาพพระบฏ เป็นต้น
         - เครื่องดนตรี เป็นเครื่องดนตรีท้องถิ่น ไม่มีความซับซ้อนในการทำ เช่น เพี้ย โทน ปี่ กลองยาว เครื่องดนตรีบางชนิดลักษณะใกล้เคียงกับชุมชนจังหวัดนครราชสีมาและไทยลาว เครื่องดนตรีเหล่านี้ได้สร้างอารมณ์สนุกสนานครึกครื้นให้กับผู้เล่นและผู้ฟังโดยเฉพาะโทนและกลองยาว
         - เพลงพื้นบ้าน มีทั้งประเภทให้อารมณ์สนุกสนานครึกครื้น โดยใช้เครื่องดนตรีประกอบจังหวะ เช่น เพลงรำโทน แต่เพลงพื้นบ้านบางชนิดให้อารมณ์แก่ผู้ฟังจากปฏิภาณของผู้ที่ขับร้องที่คิดเนื้อเพลงขึ้น ใช้เพลงเป็นสื่อโต้ตอบหรือเกี้ยวพาราสี เช่น เพลงช้าเจ้าหงส์ เพลงหอมดอกมะไพ เพลงโนเน เพลงโคราช เป็นต้น
         - การละเล่นและกีฬาพื้นบ้าน ของชาวไทยเบิ้ง คล้ายคลึงกับชาวไทยในภาคกลางและชาวไทยโคราช เช่น มอญซ่อนผ้า งูกินหาง ขี่ม้าก้านกล้วย โพงพาง วิ่งเปี้ยว เป็นที่นิยมสำหรับเด็ก ส่วนการละเล่นผู้ใหญ่ เช่น ลูกช่วง สะบ้า ต่อไก่ งูข้ามเส้า เบี้ยริบ เป็นการละเล่นที่เล่นในเทศกาลตรุษสงกรานต์ หรือประเพณีกลางบ้าน การละเล่นกีฬาพื้นบ้านเล่นเพื่อความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน และสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ